fbpx
หน้าแรก แท็ก น้ํามันหอมระเหยจากพืช

แท็ก: น้ํามันหอมระเหยจากพืช

▷ 🥇 5 เหตุผลทำไมน้ำมันหอมระเหย ถึงแพงกว่าน้ำหอมบางชนิด มันมีดีอย่างไร

มีน้ำหอมดับกลิ่นให้เลือกใช้มากมาย แต่น้ำมันหอมระเหยก็น่าสนใจไม่แพ้กัน บางครั้งเลยต้องซื้อน้ำมันหอมระเหยมาใช้ แต่ก็มีข้อสงสัยว่าทำไมน้ำมันหอมระเหยถึงแพงกว่าน้ำหอม มันมีดีกว่าอย่างไร ใครอยากรู้เราจะมาแชร์เรื่องนี้ให้ได้หายสงสัยกัน เหตุผลที่ทำให้น้ำมันหอมระเหยแพงกว่าน้ำหอม นั่นก็เพราะหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น การสกัดที่ยากยิ่งกว่า และผลดีต่อสุขภาพที่จะเห็นได้ว่าน้ำมันหอมระเหยมีดีกว่าน้ำหอมอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ราคาย่อมสูงกว่าด้วยนั่นเอง เอาเป็นว่าเราไปทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

เหตุผลที่น้ำมันหอมระเหยแพงกว่าน้ำหอม มีดังนี้

ความยากในการสกัดน้ำมันหอมระเหย

ต้องบอกก่อนเลยว่ากว่าจะสกัดน้ำมันหอมระเหยได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะพืชบางชนิดที่สกัดยากและให้ปริมาณน้อย จึงต้องใช้วัตถุดิบในการสกัดเยอะมาก นอกจากนี้พืชบางชนิดก็ต้องใช้วิธีการสกัดเฉพาะ ไม่สามารถสกัดได้ด้วยวิธีทั่วไป จึงเป็นผลให้น้ำมันหอมระเหยจากพืชเหล่านั้นมีราคาสูง เช่น น้ำมันหอมระเหยมะลิ เป็นต้น

" AIO Fresh เป็น สเปรย์ น้ำมันหอมระเหย ใช้ฉีดดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอาหารกลิ่นบุหรี่ในรถยต์ กลิ่นเหม็นอับในห้องครัว ห้องนอน หรือแม้แต่กลิ่นรองเท้า แล้วยังมีสรรพคุณจาก Essential Oil อีกมากมาย ที่มีดีกว่ากลิ่นหอม คือสุขภาพของคุณ "

น้ำหอมไม่ต้องสกัด แต่ใช้สารเคมีสังเคราะห์

น้ำหอมผลิตขึ้นมาด้วยกระบวนการทางเคมีและแต่งกลิ่นสังเคราะห์เท่านั้น โดยไม่ต้องสกัดให้ยุ่งยากแต่อย่างใด จึงผลิตง่าย ได้ปริมาณเยอะ และมีราคาถูกกว่าน้ำมันหอมระเหยอย่างเห็นได้ชัด แต่ในเรื่องของสุขภาพย่อมไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นสดชื่น ปลอดภัย ไม่อันตรายต่อสุขภาพ

ผลดี-ผลเสียที่ได้รับต่อสุขภาพ

ในเรื่องของผลดีผลเสียที่ได้รับต่อสุขภาพ จะเห็นได้ชัดว่าน้ำมันหอมระเหยมีส่วนช่วยในการบำบัดสุขภาพโดยตรง โดยเฉพาะการช่วยสร้างความผ่อนคลาย ลดความเครียด แก้อาการปวดหัว เป็นต้น และสามารถใช้ได้ต่อเนื่องในระยะยาวโดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอีกด้วย ในขณะที่น้ำหอมที่มีสารเคมีล้วน จะก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างอยู่ภายในร่างกาย และส่งผลเสียในระยะยาวได้ในที่สุด เช่น ก่อให้เกิดมะเร็ง เป็นโรคหอบหืด โรคปอด เป็นต้น และเนื่องจากการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียนี้เอง จึงทำให้น้ำมันหอมระเหยมีราคาแพงกว่าน้ำหอมอย่างเห็นได้ชัด

ให้กลิ่นที่หอมและสดชื่นยิ่งกว่า

เพราะกลิ่นที่ได้จากน้ำมันหอมระเหย เป็นกลิ่นจริงจากพืชที่นำมาสกัด จึงได้กลิ่นที่หอมสดชื่น สร้างความผ่อนคลาย ให้ความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ในขณะที่น้ำหอมไม่มีกลิ่นธรรมชาติที่สดชื่นแบบนี้เลย เพราะกลิ่นของน้ำหอมได้จากการใช้สารเคมีสังเคราะห์ขึ้นมา จึงมักจะเป็นกลิ่นที่ฉุนและแสบจมูกมากกว่า แถมเมื่อสูดดมก็ทำให้สารเคมีระเหยเข้าสู่ร่างกาย พร้อมทำลายสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นหอมนุ่ม โปร่งเบาสบาย ผ่อนคลายทุกการสูดดม

สรุป ทำไมทำไมน้ำมันหอมระเหยถึงแพงกว่าน้ำหอมบางชนิด ดังนี้

จากนี้ก็พอจะเข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่า เพราะอะไรน้ำมันหอมระเหยจึงมีราคาแพงกว่าน้ำหอมสังเคราะห์ ซึ่งแม้จะแพงกว่าโดยมีราคาอยู่ที่หลักพันถึงหลักแสนต่อกิโลกรัม แต่ก็ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการลงทุนซื้อน้ำมันหอมระเหยย่อมมีความคุ้มค่ามากกว่าการใช้น้ำหอมที่ผลิตขึ้นมาจากสารเคมีอย่างแน่นอน

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นส้ม ผสานความเข้มข้นด้วยสารสกัดธรรมชาติแท้ 100%

" รู้หรือไม่ . .!! สเปรย์ปรับอากาศในท้องตลาดส่วนใหญ่ทำมาจากสารเคมี ซึ่งจะทำให้เกิดสารเคมีสะสมในร่างกายเมื่อใช้ไปนาน ๆ  แต่ทางผลิตภัณฑ์ AIO Fresh เป็นสเปรย์ปรับอากาศ ที่ใช้น้ำมันหอมระเหย สกัดจากธรรมชาติแท้ 100 % เป็นวัตถุดิบ สามารถใช้ฉีดดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอาหาร กลิ่นบุหรี่ในรถยต์ กลิ่นเหม็นอับในห้องครัว ห้องนอน หรือแม้แต่กลิ่นรองเท้า กลิ่นฉี่ แล้วยังมีสรรพคุณจาก Essential Oil อีกมากมาย ที่มีดีกว่ากลิ่นหอม และยังดีต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย "

เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ตามไปดู! วิธีการผลิต และสกัดน้ำมันหอมระเหย ทำได้อย่างไร

วันนี้เราจะพาไปดูวิธีการผลิตและสกัดน้ำมันหอมระเหยว่ามีวิธีการทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง กว่าที่จะได้น้ำมันหอมระเหยหลากหลายกลิ่นมาใช้ทุกวันนี้ ใครที่ใช้น้ำมันหอมระเหยบ่อยๆ รีบตามไปดูกันเลย น้ำมันหอมระเหย สามารถสกัดและผลิตได้ถึง 6 วิธีด้วยกัน โดยแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่ก็ทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพดีและบริสุทธิ์ 100% อย่างแน่นอน

ไปดูกันเลยว่าการผลิตน้ำมันหอมระเหยแต่ละวิธีนั้นเป็นอย่างไร

1.การกลั่น

เป็นวิธีการกลั่นเพื่อแยกเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาจากพืช โดยจะใช้ความร้อนในการกลั่นเป็นหลัก เพื่อให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพที่สุด ทั้งนี้การกลั่นก็ยังแยกออกได้เป็น 3 วิธี ได้แก่

  • การกลั่นด้วยน้ำร้อน เหมาะกับการผลิตน้ำมันหอมระเหยจากกลีบดอกไม้อ่อนๆ และใบไม้บางๆ แต่ก็ต้องระวังให้มีระดับความร้อนที่สม่ำเสมอด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการไหม้และมีกลิ่นไหม้ติดมานั่นเอง
  • การกลั่นด้วยไอน้ำ เป็นวิธีการผลิตน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับความนิยมมาก เพราะกลั่นได้เร็วและได้น้ำมันหอมระเหยในปริมาณมากอีกด้วย
  • การกลั่นด้วยน้ำและไอน้ำ เป็นการใช้น้ำและไอน้ำมาผสมผสานเข้าด้วยกันในการกลั่น ทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพสูง มีกลิ่นหอม และกลั่นได้ในปริมาณมากเช่นกัน

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นสดชื่น ให้สัมผัสปลอดโปร่งโล่งสบาย ผ่อนคลายทุกเวลา

2.การสกัดด้วยไขมันเย็น

วิธีนี้จะใช้ไขมันเย็นในการสกัดน้ำมันหอมระเหย ทำให้ได้กลิ่นที่หอมสดชื่นและมีความใกล้เคียงกับกลิ่นจริงมากที่สุด โดยนิยมใช้กับการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากดอกของพืชที่มีกลิ่นหอม เช่น มะลิ ซ่อนกลิ่น และต้องเป็นดอกไม้ที่ยังคงสดใหม่ด้วย โดยวิธีการทำ จะใช้ไขมันดูดกลิ่นหอมของดอกไม้ไว้ก่อน จากนั้นจึงละลายน้ำมันหอมระเหยด้วยแอลกอฮอล์ ก็จะได้น้ำมันหอมระเหยที่บริสุทธิ์

3.การสกัดด้วยไขมันร้อน

การสกัดด้วยไขมันร้อน จะใช้กับดอกไม้บางชนิดที่เมื่อเด็ดออกจากต้นแล้วจะหยุดการ Physiological Activity ในทันที เช่น กุหลาบ ดอกส้ม จึงต้องทำการสกัดด้วยไขมันร้อน เพื่อให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมและมีปริมาณมาก โดยวิธีการทำ จะมีการนำเอาแอลกอฮอล์มาละลายน้ำมันหอมระเหยให้บริสุทธิ์เช่นเดียวกับการสกัดด้วยไขมันเย็น

4.การสกัดด้วยตัวทำละลาย

การใช้ตัวทำละลายมาสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืช ทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพดี ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก ซึ่งจะได้น้ำมันหอมระเหยที่มีความเข้มข้นสูงและมีกลิ่นเหมือนดอกไม้ตามธรรมชาติมากที่สุด แต่วิธีนี้จะต้องใช้ต้นทุนการผลิตที่สูงพอสมควร จึงทำให้น้ำมันหอมระเหยที่ได้มีราคาแพงไปด้วย

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นหอมนุ่ม หอมกรุ่นกลิ่นอายสดชื่น ทุกการสัมผัส

5.การสกัดด้วยการบีบหรืออัด

วิธีนี้นิยมใช้กับการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากผิวเปลือกเป็นหลัก โดยเฉพาะจากพืชตระกูลส้ม เช่น มะนาว ส้ม มะกรูด เป็นต้น โดยจะนำเอาผิวของพืชที่ต้องการสกัดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไปในเครื่องบีบอัด ก็จะได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพ มีความเข้มข้นสูงหรือที่เรียกว่าน้ำมันดิบนั่นเอง

6.การสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์

การสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วยวิธีนี้ จะทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้อย่างแท้จริง มีความบริสุทธิ์สูง และมีความปลอดภัยมากอีกด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

สรุป วิธีการผลิตและสกัดน้ำมันหอมระเหย มีดังนี้

การผลิตและสกัดน้ำมันหอมระเหย สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีต้นทุนที่แตกต่างกันออกไป และเหมาะกับการใช้สกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชต่างชนิดกันอีกด้วย แต่ก็ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพดีและบริสุทธิ์แน่นอน หากใครชอบน้ำมันหอมระเหยมาดับกลิ่นอับ และปรับอากาศให้หอมสดชื่น ก็อย่าลืมเลือกกลิ่นที่ชอบมาใช้กันดูล่ะ

>> สเปรย์น้ำมันหอมระเหย กลิ่นส้ม หอมเข้มข้นด้วยสารสกัดจากผลส้มแท้ 100%

เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

พิเศษ!! สั่งซื้อ AIO Fresh
ลดราคาเหลือเพียง ขวดละ 279.- กดสั่งซื้อได้เลย